"เล่มนี้เหมาะกับคนที่อยากเห็นกวีนิพนธ์ไทยเติบโตในแบบใหม่ อ. เดวิด ไม่ได้เขียนเพื่อราชสำนักหรือคนรัก แต่เขียนถึงชาวนา พระ และแผ่นดินไทยด้วยความถ่อมตัวแบบพุทธ"
รีวิวหนังสือ "บทกวีจากสกลนคร"
โดย อาจารย์เดวิด
สำนักพิมพ์ Ysaan Books, 2568 (2025)
กวีนิพนธ์ร่วมสมัยในรากเหง้าไทย
บทกวีจากสกลนคร เป็นผลงานของ อ. เดวิด ชาวต่างชาติที่ใช้ชีวิตในไทยมากว่า 20 ปี ด้วย 91 บทกวีฟรีเวิร์สภาษาไทย (และอังกฤษ) เล่มนี้พาเราสัมผัสสกลนครผ่านสายตาคนที่รักเมืองไทยอย่างลึกซึ้ง มันไม่ใช่แค่กวีสมัยใหม่ แต่ยังเปรียบได้กับผลงานของกวีไทยชื่อดังอย่าง สุนทรภู่ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) และ อังคาร กัลยาณพงศ์ อ. เดวิด นำเสนอแนวทางใหม่ที่แตกต่างจากกวีนิพนธ์ดั้งเดิม แต่ยังคงสะท้อนความงามของธรรมชาติ ความรัก และจิตวิญญาณแบบไทยได้อย่างน่าทึ่ง
ธรรมชาติ: ความงามที่คุ้นเคยในมุมใหม่
กวีนิพนธ์ไทยยกย่องธรรมชาติมานาน สุนทรภู่ ใน พระอภัยมณี พรรณนาทะเลและป่าด้วยกลอนที่ไพเราะราวเพลง รัชกาลที่ 2 ใน สังข์ทอง บรรยายสวนและแม่น้ำด้วยโคลงที่งดงามตามแบบฉบับราชสำนัก แต่ บทกวีจากสกลนคร นำเสนอธรรมชาติแบบเรียบง่ายและใกล้ชิด บทที่ 1 “เมื่อสายฝนหลั่งท้นสู่สกลนคร” เล่าถึงฝนที่เปลี่ยนนาข้าวให้มีชีวิต ไม่มีฉันทลักษณ์แบบเก่า แต่เต็มไปด้วยภาพที่ชัดเจนราวกับเห็นด้วยตา มันต่างจากกลอนที่เน้นจังหวะ เพราะ อ. เดวิด ให้ความสำคัญกับความรู้สึกมากกว่ารูปแบบ ทำให้ธรรมชาติในเล่มนี้ดูเป็นของทุกคน ไม่ใช่แค่ของกษัตริย์หรือกวี
บทกวีความรัก: จากหัวใจสู่ผู้อื่น
ความรักในกวีไทยมักเต็มไปด้วยอารมณ์ สุนทรภู่ ใน นิราศเมืองแกลง เขียนถึงความโหยหาคนรักด้วยกลอนที่ซึ้งถึงใจ ลิลิตพระลอ จากสมัยอยุธยาเล่าเรื่องรักที่ลงเอยด้วยโศกนาฏกรรมด้วยโคลงและร่ายที่ประณีต แต่ใน บทกวีจากสกลนคร ความรักไม่ได้เน้นแค่ความรู้สึกส่วนตัว บทที่ 14 “รักและรู้สึกรักนั้น ให้เสียงทั้งหนักและเบา” เห็นความรักเป็นสิ่งที่มาแล้วไปเหมือนคลื่นน้ำ ไม่ตราตรึงแบบนิราศ หรือบทที่ 74 ที่สัญญาจะอยู่เคียงข้างผู้อื่นตลอดไป แสดงถึงความรักแบบเมตตา ตรงข้ามกับความหลงใหลส่วนตัวของกวีไทยสมัยก่อน อ่านแล้วรู้สึกถึงความอบอุ่นที่กว้างกว่าแค่รักหนุ่มสาว
บทกวีธรรมะ: พุทธศาสนาในแบบเรียบง่าย
พุทธศาสนาเป็นส่วนหนึ่งของกวีไทยมานาน ตั้งแต่ มหาชาติคำหลวง สมัยสุโขทัยที่แต่งเป็นกาพย์เพื่อสอนธรรมะ รัชกาลที่ 2 ใช้โคลงในงานราชสำนักเพื่อยกย่องศาสนา ส่วน อังคาร กัลยาณพงศ์ ใน ลำนำภูกระดึง ผสมพุทธกับภาพธรรมชาติที่เข้มข้น บทกวีจากสกลนคร นำเสนอจิตวิญญาณแบบไม่ต้องตีความเยอะ บทที่ 5 “ข้อแรกแห่งพุทธะอริยสัจ” บอกว่าทุกข์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ทุกคนเข้าใจได้ ไม่ต้องใช้คำวิจิตรแบบอังคาร หรือข้อคิดศีลธรรมแบบเก่า บทที่ 19 “เข้าพรรษา” ชวนให้ฝึกสติแค่สามนาทีต่อวัน อ่านง่ายแต่ลึกซึ้ง เหมือนธรรมะที่คนธรรมดาเอื้อมถึง
รูปแบบ: อิสระจากฉันทลักษณ์
กวีไทยดั้งเดิมผูกพันกับฉันทลักษณ์ โคลง กาพย์ กลอน ร่าย—แต่ละแบบมีกฎเกณฑ์ชัดเจน สุนทรภู่ ใช้กลอนให้คนทั่วไปอ่านได้ง่าย รัชกาลที่ 2 ฝึกโคลงให้งามสง่า แม้แต่อังคารที่ทันสมัยยังมีกลิ่นอายฉันทลักษณ์ แต่ บทกวีจากสกลนคร ทิ้งกฎเหล่านี้ไปเลย ใช้ฟรีเวิร์สที่เหมือนการพูดคุยธรรมดา บทที่ 89 “วิถีไทยเป็นไฉน” เล่าถึง “สนุก” ที่ละทิ้งตัวตนได้อย่างอิสระ ไม่ต้องมีจังหวะเหมือนกลอน แม้บางคนอาจคิดถึงความไพเราะแบบเก่า แต่ความเรียบง่ายนี้ทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ต้องเป็นนักอ่านกวีถึงจะเข้าใจ
บทกวีเพื่อชีวิต: ความรู้สึกโดยรวม
บทกวีจากสกลนคร เป็นทั้งการสืบสานและการต่อยอดกวีนิพนธ์ไทย มันมีกลิ่นอายความรักในชีวิตแบบสุนทรภู่ ความลึกซึ้งทางจิตวิญญาณแบบรัชกาลที่ 2 และความกล้าทดลองแบบอังคาร แต่เลือกเล่าเรื่องด้วยวิธีที่ต่างออกไป อ. เดวิด ไม่ได้เขียนเพื่อราชสำนักหรือคนรัก แต่เขียนถึงชาวนา พระ และแผ่นดินไทยด้วยความถ่อมตัวแบบพุทธ มันอาจไม่แทนที่ พระอภัยมณี หรือ ลิลิตพระลอ แต่เป็นเพื่อนร่วมทางที่ทำให้เห็นว่ากวีไทยสมัยใหม่เป็นได้มากกว่ากรอบเก่า
เล่มนี้เหมาะกับคนที่อยากเห็นกวีนิพนธ์ไทยเติบโตในแบบใหม่ อ. เดวิด ผสมความเป็นไทยเข้ากับมุมมองสากลได้อย่างน่าสนใจ อ่านแล้วทั้งภูมิใจในรากเหง้าของเรา และตื่นเต้นกับสิ่งที่กวีไทยจะเป็นในอนาคต